|
ลูฟี่ขายข้าวมันกะทิสด! One Piece แห่งเมืองเชียงใหม่ ลูฟี่ขายข้าวมันกะทิสด! One Piece แห่งเมืองเชี | |
ลูฟี่ขายข้าวมันกะทิสด! One Piece แห่งเมืองเชียงใหม่ลูกค้าหลายคนพากันไปเข้าคิวซื้อข้าวมันกะทิสดที่เปิดขายในร้านโรงไม้เก่า ริมถนนสายต้นยาง หรือ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน (สายเก่า) ข้างวัดแสนหลวง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ร้านนี้ไม่เพียงแต่ข้าวมันกะทิสดจะรสชาติอร่อย แต่ร้านยังแตกต่างจากร้านขายอาหารหวานอื่น ๆ เพราะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ตกแต่งด้วยภาพวาดจากชอล์คสีและสีน้ำที่สวยงาม แถมเปิดเพลงพื้นเมืองให้ลูกค้าได้นั่งรับประทานข้าวมันและกาแฟดริปอย่างสบายอารมณ์ ไม่เพียงแต่รสชาติอาหารและบรรยากาศเท่านั้น แต่ร้านนี้ยังมีจุดเด่นที่ลูกค้าชื่นชอบก็คือหนุ่มวัย 19 ปี ลูกชายเจ้าของร้านที่แต่งคอสเพลย์เป็นลูฟี่ พระเอกการ์ตูนดังเรื่องวันพีซมายืนทำขนม พร้อมกับบริการดริปกาแฟ จึงทำให้กระแสตอบรับของร้านยิ่งได้รับความนิยม เมนูขนมที่ได้กระแสความนิยม อาทิ ข้าวมันหน้าสังขยาใบเตย , ข้าวมันหน้าสังขยาธัญพืช , ข้าวมันหน้าปลา , ข้าวมันหน้ารวม , ข้าวมันมะม่วง , ขนมปังนึ่งใส้สังขยาใบเตย , กาแฟดริป และชาอู่หลง ที่เปิดขายเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ช่วงก่อนเที่ยงก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าที่อยากลิ้มลองและขาประจำต้องตื่นแต่เช้ามารอต่อแถวเข้าคิวซื้อ นายดิเรก กันทะวงค์ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านข้าวมันกะทิสด เล่าว่า ครอบครัวตัวเองเป็นครอบครัวศิลปิน ทำงานเกี่ยวกับศิลปะ แต่ในช่วงวิกฤตโควิดต้องได้รับผลกระทบทำให้ต้องออกมาหารายได้อย่างอื่นแทน ก่อนตัดสินใจทำข้าวมันกะทิสดขายเพราะเป็นอาหารที่ตัวเองชื่นชอบ โดยตนเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำมาค้าขายและก็เริ่มฝึกทำกันเองในครอบครัว ไม่ได้ไปเรียนทำอาหารหรือไปเอาสูตรใครมา แต่เกิดจากการที่ตัวเองชอบทานข้าวมันกะทิสด จดจำรสชาติและเอามาฝึกทำ ปรับปรุงรสชาติ จนกลายเป็นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ร้านนี้ก็เปิดมาได้ประมาณปีกว่าแล้ว แนวคิดในการตกแต่งร้านส่วนใหญ่ก็ใช้ชอล์คเขียนกระดานเขียนภาพวาดตกแต่งเป็นส่วนใหญ่ ส่วนอื่น ๆ ก็ทำจากวัสดุราคาถูกที่คนมองข้าม แต่ตนเองมองว่าเป็นของที่สามารถสร้างงานศิลปะได้ โดยภาพวาดและสิ่งของที่ตกแต่งภายในร้านตนเองกับครอบครัวก็ทำเองแทบทุกอย่าง นายดิเรก บอกอีกว่า เมนูขนมที่ทำขายในร้านทุกเมนู มีสูตรที่คิดทำขึ้นมาเองกับครอบครัว มาจากความชื่นชอบ ที่ชอบอะไรก็ทำแบบนั้น อย่างเช่น ข้าวมันที่เดิมที่จะโปะหน้าด้วยสังขยา หรือที่เรียกกันว่าหน้าไข่ แต่จากการที่ตนไม่ชอบทานสังขยาที่มีกลิ่นไข่ จึงคิดว่าหากนำกลิ่นใบเตยมาแทนกลิ่นไข่ก็จะดูน่าทานไปอีกแบบ รวมทั้งตัวเองไม่ชอบโรยหน้าด้วยถั่วทอง แต่ชอบโรยหน้าด้วยงา ก็ใช้งาแทน ก็ทำให้รสชาติของขนมออกมาแตกต่าง และได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีลูกค้าชื่นชอบและมาอุดหนุนกันเยอะทุกวัน โดยทุกวันนี้มียอดขายวันละไม่ต่ำกว่า 300-400 กล่อง ขายตั้งแต่ 06.00 น. แต่ช่วงเวลาประมาณไม่ถึงเที่ยงวันของก็หมด
ขอขอบคุณ: อาหารที่หน้ากิน | |
ผู้ตั้งกระทู้ fafa855 :: วันที่ลงประกาศ 2023-05-01 21:40:26 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 178787 |