ReadyPlanet.com


รับตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี PMตู้MDB พร้อมทั้งPMหม้อแปลง


 บริการตรวจสอบไฟฟ้าปการตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอาคารเบื้องต้น

          เพื่อความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า เราควรมีการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน โดยเราสามารถใช้หลักการทางซ่อมบำรุง มาเป็นหลักปฏิบัติ โดยกำหนดหัวข้อ บันทึกผล วิเคราะห์ผล แล้วนำมาจัดแผนซ่อมบำรุง เป็นประวัติในการซ่อมบำรุง โดยมีการตรวจสอบสามารถแบ่งออกได้ เป็นการตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัสและตรวจสอบด้วยเครื่องมือตรวจวัดทางไฟฟ้า

          1. การตรวจสอบด้วยประสาทสัมผัส เราสามารถตรวจสภาพการทำงาน โดยการดูสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า กลิ่น หรือแม้กระทั่งการสัมผัส เช่น สภาพของขั้วไฟฟ้าที่อยู่ในวงจร สภาพของคันโยกเบรกเกอร์ โดยวิธีการนี้ อาจมีการกำหนดมาตรฐานขึ้นมา เช่น กำหนดเป็นภาพของเบรกเกอร์ ในสภาวะการทำงานปกติ เพื่อใช้เปรียบเทียบในการตรวจสอบ เป็นต้น

 2. ตรวจสอบด้วยเครื่องมือทดสอบ การตรวจสอบมักมีมาตรฐานเพื่อใช้ในการตัดสินใจว่าอุปกรณ์นั้น สามารถใช้งานต่อได้หรือไม่ ในการตรวจสอบมักนิยมใช้ มัลติมิเตอร์ ในการตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยวัดความต้านทานของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หลอดไฟฟ้า บาลาสตร์ หรือในแผงวงจรไฟฟ้าเป็นต้น
          นอกจากมัลติมิเตอร์ แล้วยังมีอุปกรณ์ตรวจอื่นที่สามารถ ใช้ตรวจสอบสภาพในการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้า คือ Test Lamp หรือไขควงเช็คไฟ เป็นการเช็ควงจรในอุปปกรณ์ไฟฟ้า โดย Test Lamp จะมีให้เลือกใช้หลายพิกัด 80-380VAC , 100-500VAC, 50-500VACขึ้นอยู่กับว่าจะไปเช็คไฟ เช่น ถ้าเช็คไฟบ้าน 1 เฟสใช้ 80 -380 VAC หากใช้เช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า ในโรงงานใหญ่ อาจต้องใช้ 100-500 VAC ขึ้นอยู่
กับอุปกรณ์ที่ตรวจสอบด้วย
วิธีการใช้ Test Lamp หรือไขควงวัดไฟ
1. ใช้มือข้างที่ถนัด จับที่ด้ามไขควง
2. ใช้นิ้วที่ถนัดกดที่ด้ามไขควง
3. นำปลายด้านไขควงที่เป็นโลหะจี้ที่จุดที่คิดว่ามีกระแสไหลผ่าน
4. หากมีกระแสไหลผ่านด้ามจะสว่าง หากไม่มีกระแสไหลผ่านไฟที่ด้ามไม่ติด
การตรวจเช็คสภาพของสายไฟ
          สายไฟนับเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่มีความสำคัญในระบบไฟฟ้า การเลือกสายไฟให้เหมาะสมกับงานตลอดถึงการติดตั้งย่อมมีผลต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน อุปกรณ์ไฟฟ้า ในการพิจารณาการตรวจสอบสภาพของสายไฟที่ท่านใช้งานอยู่มาให้พิจารณาดังนี้
ความเป็นฉนวนของสายไฟฟ้า
เหตุที่ทำให้สายไฟเสื่อมสภาพอาจมีหลายสาเหตุสามารถสรุปได้ดังนี้
          1. อุณหภูมิทั้งสภาวะแวดล้อมในการใช้งานและที่เกิดจากการใช้งานในสายไฟฟ้าเอง หากเดินสายไฟผ่านจุดหรือบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงควรเลือกใช้สายให้เหมาะสม
          2. ฉนวนที่ห่อหุ้มบริเวณรอยต่อไม่ดีเลือกใช้ฉนวนที่เหมาะสมได้มาตรฐานเช่นบริเวณที่มีความร้อน อาจใช้เทปพันสายไฟที่สามารถทนความร้อนสูง
3. กระแสไหลผ่านมากเกินไป
          - สายขนาดเล็กเกินไป
          - ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมแต่ขนาดสายเท่าเดิม
          - ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไม่เหมาะสม
          - ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบไฟฟ้าของเจ้าของอาคารสถานที่
          4. สายไฟฟ้าถูกกดทับความเสียหายของฉนวนที่เกิดจากการกดทับย่อมทำให้ลดอายุการใช้งานของสาย
ไฟลดลง
          - การสั่นสะเทือน
          - รอยต่อหลวม
          - ขาดการตรวจสอบและดูแลรักษา
การตรวจสอบความเป็นฉนวนของสายไฟฟ้า
          1. เมื่อเป็นวงจรควบคุมการเปิด-ปิด หลอดไฟฟ้า ให้ใช้เมกเกอร์ทดสอบ
          - ค่าความต้านทานเท่ากับศูนย์หรือน้อยกว่า 0.5 เมกะโอร์ม ฉนวนเสื่อมคุณภาพ

          - ค่าความต้านทานมากกว่า 0.5 เมกะโอห์ม ฉนวนยังไม่เสื่อมคุณภาพใส่หลอดเข้ากับจุด 1,2จากนั้นตรวจสอบฉนวนระหว่างสายไฟฟ้ากับดิน ถ้าค่าความต้านทาน 0.5 เมกโอห์ม ฉนวนเสื่อมคุณภาพ ควรทำการเปลี่ยนสายไฟ
2. วิธีการทดสอบฉนวนของสายไฟฟ้าเมื่อเดินสายไฟฟ้าในท่อร้อยสาย
          - ใช้เมกเกอร์หรือ Insulation  tester meter ใน Multi meter มีฟังก์ชันนี้อยู่  ทดสอบที่ขั้วใดๆ
          - ทดสอบระหว่างสายไฟฟ้ากับดิน
การบำรุงรักษาฉนวนของสายไฟฟ้า
          - หมั่นตรวจสอบและทำความสะอาด
          - ตรวจสอบกระแส
          - ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันวงจรขนาดที่เหมาะสม
          - อย่าให้สายไฟฟ้าถูกแสงแดด
          - ระวังอย่าให้สายไฟฟ้าถูกกดทับด้วยสิ่งของ

 ระจำปี พร้อมทั้งPMหม้อแปลงPMตู้MDB



ผู้ตั้งกระทู้ นันท์นภัส (ensafe30-at-gmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2023-03-31 09:09:50


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.